บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 4
วิชา
การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ตฤณ แจ่มถิน
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
กลุ่มเรียน 105
( วันอังคาร ) เวลา 08.30 – 12.20 น.

สรุปองค์ความรู้
ถ้าเปรียบมือที่เราวาดกับการบันทึกพฤติกรรมเด็ก ถ้าเราเห็นและบันทึกเลยขณะที่เด็กกำลังกระทำหรือที่เราเห็นเราจะจำรายละเอียดได้หมด
แต่ถ้าเราเห็นแล้วจำไว้และกลับมาบันทึกในตอนหลัง เราไม่สามารถบันทึกได้หมดเราจะจำได้แต่ส่วนสำคัญไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้หมด
* เด็กพิเศษเห็นปุ๊บ บันทึกปั๊บ
ไม่ควรจำเพราะจะจดจำได้ไม่หมด



มองเห็นเด็กทุกคนในภาพรวมเหมือนกัน อย่ามองแต่เจาะจงจุดบกพร่องเป็นจุดเด่น เป็นครูควรรู้จักเด็กทุกคนให้ดี รู้จักอุปนิสัยของเด็กที่สำคัญการเป็นครูควรจำชื่อจริง
– นามสกุล และชื่อเล่นของเด็กได้ครบทุกคน

อบรมระยะสั้น หรือสัมมนา และสื่อต่างๆ
เพราะทุกวันนี้สื่อสำหรับเด็กพิเศษมีหลากหลายที่จะให้ความรู้ต่างๆ
เช่น ทางอินเทอร์เน็ต

ครูต้องเรียนรู้และมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก รู้จักเด็กแต่ละคน มองเด็กให้เป็น “เด็ก” ไม่ใช่มองเด็กต่างกัน

การที่ครูเข้าใจพัฒนาการของเด็กจะช่วยให้ครูมองเห็นความแตกต่างของเด็กได้ง่าย พยายามพูดในด้านที่ดีของเด็ก ครูต้องมีจริตในการคุยกับผู้ปกครอง

· วุฒิภาวะ : ต่างกันไม่เยอะเพียงแค่เล็กน้อย
· แรงจูงใจ : แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน
·
โอกาส
: ต่างละคนมีโอกาสในการเรียนแตกต่างกัน ย่อมขึ้นอยู่กับโอกาสในแต่ละคน

เด็กเดินเข้ามาหาครูตอนที่เด็กว่าง เด็กเข้าหาครูมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสในการสอนมากเท่านั้น เด็ก
หรือเรียกครูแล้วให้ครูเข้าไปหาครูสอน พูดคุยกัน
อาจให้ครูบอกคำตอบเด็กแล้วให้เด็กทวน

ของเล่นเด็กพิเศษต้องไม่แบ่งแยกเพศและไม่เป็นของเล่นที่มีการเล่นตายตัว สื่อไม่แบ่งแยกเพศเด็ก เช่น บล็อก
ดินน้ำมัน แป้งโดว์ จิ๊กซอ
รอยลูกปัด อื่นๆ สื่อที่แบ่งแยกเพศ เช่น
แต่งตัว มีด/ดาบ อื่นๆ

เด็กพิเศษไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ ตารางที่ดีต้องเป็นตารางที่เด็กสามารถคาดเดาได้



การแก้แผนการสอนให้เหมาะกับสถานการณ์ ครูต้องตอบสนองต่อเป้าหมายที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กแต่ละคน

ใจกว้างต่อคำแนะนำ ฟังหูไว้หู
ควรสร้างความสัมพันธ์ระหว่างการบำบัดกับกิจกรรมในห้องเรียน



เด็กเรียนรู้ไม่ได้เพราะความสามารถ และเด็กเรียนไม่ได้เพราะขาดโอกาส

ความสนใจของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กนั้นสำคัญมาก มีแนวโน้มจะเพิ่มพฤติกรรมที่ดีของเด็ก

ครูต้องให้แรงเสริมทันทีที่เด็กมีพฤติกรรมอันพึงประสงค์ และควรมองข้ามพฤติกรรมของเด็กในพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์

เอาอุปกรณ์หรือของเล่นออกไปจากเด็ก นำเด็กออกจากกิจกรรมให้เด็กอยู่มุมห้องตามเวลาที่กำหนด
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
· ฝึกความอดทนในการดูแลเด็กและการให้แรงเสริมกับเด็ก
· ควรปรับทัศนคติในการมองเด็กในภาพรวมให้เหมือนกัน
· คิดและออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็ก
· คิดและออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็ก
การประเมิน
ตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา
แต่งกายถูกระเบียบ ตั้งใจทำกิจกรรมการวาดมือของตนเอง ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน จดบันทึกเนื้อหาเพิ่มเติมนอกเหนือจากในเอกสารความรู้
เพื่อน : ตั้งใจเรียนมีการจดบันทึกเนื้อหาเพิ่มเติม มีการตอบคำถามโต้ตอบ
อาจารย์ : มีความพร้อมในการสอน เตรียมสื่อในการสอนก่อนเรียน
มีการยกตัวอย่างและแนะนำความรู้จากประสบการณ์จริงให้นักศึกษาเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น